วันนี้ (วันที่ 12 กันยายน 2568) ที่ห้องประชุมมุกอันดา ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างจังหวัดภูเก็ต กับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธู์พืช เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ Boat Taxi เพื่อยกระดับระบบขนส่งสาธารณะทางน้ำ ลดปัญหาการจราจรบนท้องถนน และเพิ่มทางเลือกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวและประชาชน โดยมี นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมลงนามพร้อมด้วย นายเทอดไทย ขวัญทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน เข้าร่วมเพื่อผลักดันการดำเนินโครงการ
โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเชื่อมโยงเส้นทางเดินเรือรอบเกาะภูเก็ต โดยเฉพาะเส้นทางนำร่องจากอุทยานแห่งชาติสิรินาถ หาดในยาง ใกล้สนามบินนานาชาติภูเก็ต ไปยังหาดป่าตอง ระยะทาง 16.7 ไมล์ทะเล ใช้เวลาเดินทางเพียง 40 นาที จากเดิมที่การเดินทางทางบกอาจใช้เวลา 1.30 3 ชั่วโมงในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือเบื้องต้นได้กำหนดไว้ 14 จุดครอบคลุมพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ หาดในยาง ในทอน บางเทา กมลา ป่าตอง กะรน กะตะ และในหาน เน้นให้บริการที่สะดวก ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมมาตรการติดตามความปลอดภัย เช่น การตรวจสอบเส้นทางเดินเรือผ่านระบบ AIS, GPS และวิทยุสื่อสาร VHF ทั้งนี้ โครงการยังคงให้ความสำคัญกับการประเมินผลกระทบด้านระบบนิเวศ โดยเฉพาะพื้นที่วางไข่ของเต่าทะเล รวมถึงการจัดวางทุ่นผูกจอดเรือและท่าเทียบเรืออย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งอุทยานแห่งชาติสิรินาถได้ดำเนินการยื่นขออนุญาตแล้ว และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจังหวัดภูเก็ตในวันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธาน
อย่างไรก็ตาม เส้นทางการเดินเรือทางฝั่งตะวันตกจะเปิดให้บริการเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ไม่เอื้ออำนวยต่อการเดินเรือ โครงการ Boat Taxi จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะของจังหวัดภูเก็ตให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล ลดความแออัดบนท้องถนน สร้างความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสาร และเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการผลักดันภูเก็ตสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างยั่งยืน |