เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (9 มกราคม 2562) ณ สนามชัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ตนายภัคพงษ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick off เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมตามแผนรณรงค์ แยกก่อนทิ้งโดยมีนายประกอบ องมณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็จ นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายวิญญ์ สิทธิเชนทร์ ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นข้าราชการ และประชาชนเขาร่วม
นายวิญญ์ สิทธิเชนทร์ ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องจากจากการเพิ่มขึ้นของประชากรส่งผลให้ขยะจากบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ห่อสินค้าอุปโภคบริโภคมีจำนวนมากขึ้นขณะเดียวกันบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ห่อทั้งหลายมักเป็นวัสดุที่ผลิตจากพลาสติกหรือวัสดุที่ย้อยสลายตามธรรมชาติได้ยากจึงเป็นสาเหตุให้ปริมาณขยะมากขึ้นในการกำจัดด้วยวิธีการเผาเพียงอย่างเดียวก็จะเกิดมลพิษทางอากาศส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนตามมาประกอบกับประชาชนเองยังขาดจิตสำนึกในการทิ้งขยะให้เป็นที่การแยกขยะก่อนทิ้งรวมทั้งขาดความรู้เกี่ยวกับนำขยะกลับมาใช้ใหม่ เพราะพอได้ยินคำว่า ขยะหลายๆคนก็ไม่สนใจละเลยและไม่เห็นค่าทั้งที่ขยะเหล่านั้นหากนำมาคัดแยกอย่างถูกวิธีและจะสามารถสร้างประโยชน์ได้รวมทั้งขยะก็จะมีจำนวนลดลงได้มากและจะสิ่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมต่อประชากรและต่อประเทศชาติกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดแผนรณรงค์จังหวัดอำเภอองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหมู่บ้าน/ชุมชนร่วมกันขับเคลื่อนการบริหารจัดการขยะมูลฝอยและสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการจัดการขยะของครัวเรือนด้วยการแยกขยะก่อนทิ้งนี้หมู่บ้านชุมชนให้มีการจัดการขยะอินทรีย์การจักการขยะอันตรายอย่างมีประสิทธิภาพขยะทั่วไปและขยะรีไซเคิลมีการประกาศกำหนดวันและเวลาในการเก็บขนขยะแยกตามประเภทโดยกระทรวงมหาดไทยกำหนดให้มีกิจกรรม Kick off ตามแผนรณรงค์ แยกก่อนทิ้งได้กำหนดกิจกรรมKick offเพื่อเคลื่อนกิจกรรมตามแผนรณรงค์มาเข้าร่วมกิจกรรมตลาดนัดขยะรีไซเคิล โดยมีผู้รับซื้อคือบริษัทวงศ์พาณิช สาชาภูเก็ต ส่วนผู้เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วยส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวมประมาณ 300 คน
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่านับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ปัญหาขยะมูลฝอยเป็นปัญหาสำคัญที่อยู่คู่สังคมไทย และจังหวัดภูเก็ตมาอย่างยาวนานและนับวันยิ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น สาเหตุเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขยะมูลฝอยตามอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการบริโภคของประชาชน แม้ว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการขยะมูลฝอยทางการจัดเก็บการเคลื่อนย้ายรวมทั้งทำลาย จะได้รับการจัดสรรงบในการก่อสร้างระบบจัดการขยะมูลฝอยต่างๆแต่ก็ยังไม่เพียงพอกับ ปริมาณขยะมูลฝอยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องทุกปี รัฐบาลจึงตั้งหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าวและต้องการให้ทุกภาคส่วนของสังคมไม่ว่าจะเป็นหน่วยของรัฐภาคเอกชนและภาคประชาสังคมรวมกันแก้ไขปัญหาโดยสนับสนุนและขยายผลให้ประชาชนลดปริมาณขยะมูลฝอยตามหลักการ 3rs reduce reuse recycle หรือที่เรียกว่าหลักการ 3 ช ดังนั้นกระทรวงมหาดไทยจึงนำแนว นโยบายของรัฐบาลมากำหนดเป็นแผนรณรงค์แยกก่อนทิ้งเพื่อสร้างจิตสำนึกและกระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการขยะให้ถูกต้องตามหลักวิชาการทั้งในระดับครัวเรือนชุมชนและสังคมเพื่อป้องกันปัญหาขยะล้นเมืองในอนาคต ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ที่ชาวภูเก็ตทุกท่านจะได้เข้าร่วมการจัดการขยะตั้งแต่ในระดับครัวเรือน ลดปริมาณขยะต้นทางเพื่อให้จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดสะอาดในอนาคต
|