|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุมผ่านระบบ Video Conference เน้นย้ำแนวทางการสร้างสังคมเข้มแข็งอย่างยั่งยืนพร้อมแก้ปัญหาอุปสรรคให้กับทุกจังหวัดอย่างเต็มที่
|
 |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุมผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ผ่านระบบ Video Conference เน้นย้ำแนวทางการสร้างสังคมเข้มแข็งอย่างยั่งยืนพร้อมแก้ปัญหาอุปสรรคให้กับทุกจังหวัดอย่างเต็มที่ ในวันที่ 3 ธ.ค. 2559 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมอาคารคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสนิท ศรีวิหค นายธีระ อนันตเสรีวิทยา นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ผ่านระบบ Video Conference จาก ห้องประชุม 1 กระทรวงมหาดไทย โดยมีพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดเป็นประธาน นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมชี้แจงการดำเนินงานตามแนวทางการสร้างสังคมเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลกำลังจัดทำงบประมาณตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2560 เพื่อจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0 โดยต้องอาศัยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ขับเคลื่อนทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งเป็นเครื่องจักรสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้เกิดความยั่งยืนภายในประเทศ เพื่อยกระดับอาชีพ รายได้ คุณภาพชีวิตประชาชนในทุกภูมิภาค รัฐบาลจะเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาในมิติเชิงพื้นที่เป็นหลัก เพื่อดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ให้เกิดความสมบูรณ์แข็งแรงในภูมิภาค ทั้งกลุ่มจังหวัด จังหวัด และชุมชนในพื้นที่ นำศักยภาพของทุกภาคส่วนมาสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลในการปรับเปลี่ยน ปฏิรูปเศรษฐกิจใหม่ของประเทศไทยให้ได้อย่างยั่งยืน
พร้อมกับรัฐบาลมีนโยบายเพิ่มเติมศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ โดยการเน้นการทำงานแบบประชารัฐ ให้ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมช่วยกันพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสร้างความเข้มแข็ง เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน เพราะวันนี้รายได้ประชาชนระดับล่างส่วนใหญ่ยังต่ำกว่ามาตรฐานทุกจังหวัด ต้องหาทางทำให้ขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกัน ให้พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันให้ได้ ซึ่งเป็นการบ้านที่ทุกกลุ่มจังหวัดเร่งดำเนินการ ให้สอดคล้องและตอบสนองนโยบายกับนโยบายของรัฐบาล
นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวด้วยว่า ต้องส่งเสริมให้ประชาชนฐานรากมีชีวิตอยู่ได้อย่างยั่งยืน โดยวันนี้รัฐบาลจะใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง ไม่รอการขับเคลื่อนจากส่วนกลางเพียงอย่างเดียว โดยมีเป้าหมายสร้างความเป็นธรรม ขจัดความเหลื่อมล้ำ ให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงทรัพยากรอย่างสมดุลคุ้มค่า ให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้เพื่อให้ทุกคนมีรายได้เพียงพอในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทั้งนี้ทุกภาคส่วนทั้งนักธุรกิจ ภาคราชการ ประชาชนทั้งหมดต้องสร้างความเข้มแข็งโดยเริ่มจากตัวเองก่อน สำหรับในเรื่องโครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้พิจารณาให้กลุ่มจังหวัดและจังหวัดดำเนินการนั้น จะมีเม็ดเงินลงไปที่กลุ่มจังหวัดและจังหวัดมากขึ้นตามแผนพัฒนาที่มีอยู่ โดยขอให้ทำโครงการให้ชัดเจนเหมาะสมตอบสนองความต้องการของพื้นที่และจะต้องหาหลักการและเหตุผลมาตอบให้ได้ว่า โครงการที่ขอมาจะทำให้เกิดประโยชน์อะไรกับประชาชนจำนวนเท่าใด ประชาชนจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าไหร่โดยจะต้องมีการประเมินผลมาด้วย เพื่อให้รัฐบาลชี้แจงเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลต่อประชาชนได้ โดยรองนายกรัฐมนตรีทุกคนจะเป็นที่ปรึกษา กำกับดูแลการจัดทำโครงการและงบประมาณ ร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ แบะพร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนทุกคน
ทางด้านนายกฤษฎา บุญราช เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินการตามแนวทางการสร้างสังคมเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน การบริโภคและการลงทุนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
ดังนั้นสิ่งที่จะต้องมุ่งเน้นในขณะนี้คือ 1. การค้นหาศักยภาพของตัวเอง จังหวัด กลุ่มจังหวัด ภูมิภาค รวมทั้งต้องหาศักยภาพระหว่างกันให้เจอ ทั้งระหว่างรัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ หาแนวทางร่วมมือกัน ต้องสร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันให้ได้โดยเร็ว ทั้งทวิภาคีและพหุภาคี 2. การลดอุปสรรคทางการค้า อำนวยความสะดวกให้ได้มากที่สุด เกิดความเป็นสากลให้ได้มากที่สุด 3. การสร้างห่วงโซ่ อุปสงค์ อุปทาน ให้ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยการสร้างเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศให้เข้มแข็ง เพื่อเชื่อมต่อห่วงโซ่การผลิตในการแปรรูป เพิ่มมูลค่าไปสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ให้ได้โดยเร็ว 4. การพัฒนาเทคโนโลยี เพิ่มการวิจัยพัฒนาให้ได้โดยเร็ว นำสู่การผลิตทั้งด้วยฝีมือคนไทยและความร่วมมือจากต่างประเทศในด้านบุคลากร ทั้งการวิจัยและพัฒนา ร่วมมือกันด้วยกลไกประชารัฐ 5. การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจด้วยดิจิทัล เพื่อให้เข้าถึงทรัพยากร ลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนในการประกอบการ ให้มีผลกำไรมากขึ้น ที่จะต้องสนับสนุนทั้งภาคประชาชนและภาคเกษตรกรในเศรษฐกิจฐานราก 6. จะต้องปฏิรูปเศรษฐกิจใหม่ของประเทศไทยให้เข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถทั้งในส่วนของเศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจขนาดกลาง ขนาดใหญ่ เอสเอ็มอี Start Up จึงจำเป็นต้องทำให้คืบหน้าเพื่อตัวเราเองและเพื่อประชาคมโลก รวมทั้งจะต้องสร้างห่วงโซ่ใหม่เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยเร็วโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องคิดร่วมกันผนึกกำลังกันไปให้ได้ ซึ่งการจะเกิดไทยแลนด์ 4.0 ได้ จะต้องมีการเจริญเติบโตภายใน และสร้างการเจริญเติบโตจากภายนอกให้เข้ามาในประเทศไทย ทำให้ทั้งสองด้านสมดุลกัน
และภายหลังการประชุม video conference เพื่อหารือการดำเนินการตามแนวทางการสร้างสังคมเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวชี้แจงความเข้าใจต่อ หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการประชุม video conference ว่า สิ่งที่กลุ่มจังหวัดฝั่งอันดามัน และจังหวัดภูเก็ตต้องเร่งดำเนินการ คือ จังหวัดและกลุ่มจังหวัดฝั่งอันดามันต้องเร่งจัดเสนอโครงการ ตามที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด โดยกระทรวงมหาดไทยนั้นมีเป้าหมายต้องการให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดคิดโครงการใหม่ๆที่จะต้องตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบโครงการต่างๆ ปฏิบัติตามห้วงเวลาที่กำหนด และการจัดลำดับความสำคัญของการนำเสนอตามระยะเวลาที่กำหนด [ 2559-12-03 ]
|
|
|
| ข่าวอื่นๆ |
|
|
| >> ข่าวทั้งหมด |
