ยาเสพติด
สรุปสถานการณ์ปัญหายาเสพติดพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
การผลิตและปลูกพืชเสพติด
การปลูกพืชเสพติดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตห้วงเดือนตุลาคม 2551 - กรกฎาคม 2552 ยังไม่ใช่ปัญหาสำคัญเพราะโดยส่วนมากเป็นการนำมาจากพื้นที่อื่น จากข้อมูลข่าวสารและข้อมูลการจับกุมการลักลอบปลูกพืชเสพติดในพื้นที่ ยังคงมีการลักลอบปลูกพืชเสพติดบ้างเล็กน้อยเช่น พืชกระท่อม กัญชาสด แต่มีปริมาณไม่มากนักส่วนใหญ่ก็เป็นการลักลอบปลูกเพื่อไว้ใช้เองในพื้นที่ และเสพในกลุ่มเกษตรกร แรงงานก่อสร้าง นักท่องเที่ยว นักเรียนนักศึกษา
กัญชาสด กัญชาสดยังคงลักลอบปลูกบ้างในพื้นที่ อ.เมือง อ.ถลาง โดยแอบปลูกแซมพืชสวนครัวปริมาณไม่กี่ต้น
พืชกระท่อมสด ในพื้นที่ยังคงมีการปลูกแซมกับพืชสวนในพื้นที่กระจายอยู่ทุกอำเภอ เช่น อ.เมือง อ.ถลาง อ.กะทู้ปริมาณไม่มากส่วนใหญ่ปลูกไว้บริโภค
การค้า
จังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์รวมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ อนึ่งเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญประชากรมีความหลากหลาย มีกำลังซื้อสูง เป็นแรงจูงใจในการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายทั้งที่มีการตรวจตราของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด แต่การลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ยังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักค้าที่เป็นเครือข่ายระหว่างภาค ระหว่างประเทศ ชาวต่างชาติ (กรณี เฮโรฮีน โคเคน) การเป็นแหล่งพักยาเสพติดเพื่อส่งไปประเทศที่สาม และนำเข้ายาเสพติด(กรณีโคเคน) เป็นแหล่งพักสารตั้งต้นซูโดอีเฟดรีน เพื่อส่งออกต่างประเทศ รวมทั้งกลุ่มคนผู้กระทำความผิดมีลักษณะเป็นเครือข่ายมากขึ้น ที่สำคัญกลุ่มผู้ค้ามีแนวโน้มอายุลดลง ทั้งเด็ก สตรี มีการเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมากขึ้น ในห้วงที่ผ่านมามีการจับกุมเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนคดีและปริมาณของกลาง
สถิติการจับกุมคดีค้า
การจับกุมคดีค้าในห้วงที่ผ่านมามีการจับกุมคดีค้า 396 คดี ผู้ต้องหา 544 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นการกระทำผิดของผู้ต้องหาจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช จากพื้นที่สามจังหวัด กลุ่มนักค้าจากภาคเหนือ เป็นเครือข่ายใหญ่
สถิติการจับกุมคดีค้าแยกตามชนิดยาเสพติด
ในห้วงที่ผ่านมามีการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่เพิ่มขึ้นเฉพาะยาบ้า 76,744 เม็ด กัญชาแห้ง 7,734 กรัม โคเคน 19 กรัม ไอซ์ 444 กรัม อัลปราโซแลม 1,032 เม็ด ยาอี 531 เม็ด ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีความหลากหลายของตัวยาและของกลางในคดีเพิ่มขึ้น
สถิติการจับกุมเปรียบเทียบคดีค้า
ปี 2551 เทียบปี 2552
จากสถิติแสดงจำนวนคดีในห้วงเดือนตุลาคม 2551-กรกฎาคม 2552 เปรียบเทียบกับห้วงปีงบประมาณ 2552 จะเห็นว่าทั้งจำนวนคดีเพิ่มขึ้น ร้อยละ 52 ซึ่งเพียงแค่ 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 ซึ่งแนวโน้มน่าจะเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้น กลุ่มบุคคลที่ควรเฝ้าระวังมีทั้งผู้ค้าในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน เช่น กลุ่มนักค้าในพื้นที่ อ.เมือง, อ.พระแสง ,อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี , อ.ตะกั่วทุ่ง ,อ.โคกกลอย จ.พังงา , อ.พรหมคีรี อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ,อ.อ่าวลึก, อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ และกลุ่มผู้ค้าแรงงานจากพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นักเรียนนักศึกษา กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น ชาวฮอลแลนด์ ออสเตรเลีย กลุ่มหญิงไทยที่เดินทางมาจากประเทศอาร์เจนติน่า ซึ่งมีแนวโน้มในการกระทำความผิดในคดียาเสพติดมากขึ้น ส่วนตัวยาที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในเรื่องการค้าคือ ไอซ์ เฮโรฮีน โคเคน
รูปแบบการค้า/การรับส่งของ/การติดต่อสื่อสาร
เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตมีประชากรแฝงเข้ามาประกอบอาชีพในพื้นที่ รูปแบบและวิธีการมีความหลากหลายเป็นกระบวนการเป็นเครือข่ายมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายในพื้นที่ และต่างพื้นที่โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ และจังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากนี้มีการค้าจากผู้ค้ารายใหม่ซึ่งเป็นรายย่อยเพิ่มมากขึ้น การติดต่อซื้อขายยังคงเป็นการซื้อขายกันทางโทรศัพท์ การชำระเงินค่ายาเสพติดผ่านทางบัญชีธนาคาร สำหรับการลำเลียงยาเสพติดนั้นมีทั้งที่ผู้ขายส่งในพื้นที่เดินทางไปรับยาเสพติดด้วยต้นเองหรือบางครั้งใช้คนสนิทขึ้นไปลำเลียงยาเสพติด จ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินแล้วแต่ว่ายาเสพติดครั้งนั้นมีปริมาณเท่าไร หรือการส่งทางไปรษณีย์ แต่ถ้าหากเป็นการขายปลีกในพื้นที่ก็จะนำยาเสพติดไปให้ด้วยตนเอง หรือหากมีความระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้นก็อาจส่งมอบกันโดยนัดสถานที่แล้วนำยาเสพติดไปวางไว้ในสถานที่ที่นัดหมาย แล้วโทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสารเพื่อบอกจุดในการวางยาเสพติด การลักลอบโดยการซุกซ่อนในร่างกายแล้วเดินทางมากับเครื่องบินโดยสาร
เส้นทางการลำเลียง
จังหวัดภูเก็ตมีเส้นทางบกติดต่อจังหวัดพังงา เมื่อผ่านเข้าเขตต้องผ่านด่านตรวจภูเก็ต ( ท่าฉัตรไชย) และทางท่าอากาศยาน แต่ช่วงที่ผ่านมาไม่ปรากฏข่าวสารการลักลอบนำยาเสพติดมากับเครื่องบิน และสุดท้าย คือทางน้ำ แต่จากสถิติแล้วทางบกมีความถี่ในการจับกุมมากที่สุด ตัวอย่างเส้นทาง ที่มักมีการลักลอบลำเลียง เช่น
เส้นทางแรก
ยาบ้าและกัญชาจากภาคเหนือและภาคอีสาน ถูกนำเข้าสู่ภาคใต้โดยผ่าน จังหวัดชุมพร ลำเลียงมาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ เข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตัดเข้าสู่ทางหลวง สายเอเชียหมายเลข 44 หรือเส้นทางรองหมายเลข 415 มาสามแยกหน้า สภ.ปลายพระยา หรือสามแยกนาเหนือ และเข้าสู่ อ.อ่าวลึก อ.เมือง อ.ทับปุด จังหวัดพังงา เข้าจังหวัดภูเก็ต
เส้นทางที่สาม
มาจากพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง เข้ามาอำเภอ คลองท่อม อำเภอเหนือคลอง และเข้าสู่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 บางส่วนส่งต่อเข้า จ.ภูเก็ต เส้นทางลักลอบลำเลียงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษอีกทางหนึ่งคือ ทางเรือ
จากข้อมูลการข่าวในพื้นที่มีการลำเลียงยาบ้าโดยใช้เรือหางยาว มาจากบ้านสามช่อง ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ไปส่งที่ท่าเรือ อ่าวปอ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อหลบหลีกการตรวจค้นของด่านตรวจจังหวัดภูเก็ต ( ท่าฉัตรไชย) การแพร่ระบาด
การแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในห้วงที่ผ่านมา มีแนวโน้มของการแพร่ระบาดในพื้นที่เพิ่มขึ้นมีการ
จับกุมผู้ต้องหาในคดีครอบครองและเสพมากขึ้นกว่าห้วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2551 มีการจับกุมในคดีเสพ 469 คดี คดีครอบครอง 809 คดี ในกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นแรงงาน นักเรียนนักศึกษา กลุ่มคนว่างงาน นักท่องเที่ยว หญิงบริการตลอดจนพื้นที่ที่เป็นปัญหาความรุนแรงของการเป็นพื้นที่แพร่ระบาดยังคงเป็น อ.เมือง อ.กะทู้ และ อ.ถลาง
ยาที่สำคัญที่มีการแพร่ระบาดในพื้นที่มี ยาบ้า พบการแพร่ระบาดมากในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ถลาง กัญชาแห้ง พบการแพร่ระบาดในพื้นที่ อ.เมือง อ.ถลาง อ.กะทู้ พืชกระท่อม พบการแพร่ระบาดในพื้นที่ อ.ถลาง อ.กะทู้ ส่วนยาในกลุ่ม Club drug ( ไอซ์ และโคเคน วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท) พบการแพร่ระบาดในพื้นที่ อ.เมือง อ.กะทู้ ในส่วนพืชกระท่อม (4 x 100) โดยพื้นที่หลักของการแพร่ระบาดแหล่งมั่วสุม เช่น สวนสาธารณะสะพานหิน ตลาดนัด หอพัก ร้านสะดวกซื้อ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยกลุ่มผู้เสพจะอยู่ในช่วงอายุ 15 -25 ปี เป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงาน กลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา หญิงบริการ กลุ่มคนว่างงาน และแรงงานต่างด้าว
สรุปแนวโน้มสถานการณ์ยาเสพติด
สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีแนวโน้มการจับกุมเพิ่มขึ้นทั้งคดีค้าและเสพ เนื่องจากความเข้มงวดในการกวาดล้างกลุ่มผู้ค้าและเสพ การลักลอบนำเข้ามาในพื้นที่ เป็นต้น
กลุ่มการค้า
๑. การกระจายตัวของกลุ่มผู้ค้ารายสำคัญในพื้นที่มากขึ้น โดยเป็นการจำหน่ายครั้งละ 5-10 ถุง ส่วนรายใหญ่จะจำหน่ายครั้งละหลายๆมัด (2,000 เม็ด ขึ้นไป)
๒. กลุ่มนักค้ารายย่อยจากจังหวัดพังงา นครศรีธรรมราช กระบี่ สุราษฎร์ธานี นักค้าจากพื้นที่ภาคเหนือ ชาวต่างชาติ ที่จะลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ต้องเฝ้าระวังตามจุดตรวจจุดสกัดให้มากขึ้น
๓.มีแนวโน้มของการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางเรือ ระหว่างจังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา
๔.ยาบ้า กัญชาแห้ง พืชกระท่อม ไอซ์ และเฮโรฮีน ยังคงเป็นตัวยากลักในการค้า
การแพร่ระบาด
๑. การแพร่ระบาดยาเสพติดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกระจายทุกอำเภอโดยเฉพาะ อ.เมือง อ.กะทู้ และ อ.ถลาง
๒. กลุ่มยาเสพติดที่ใช้เพื่อความบันเทิง (Club Drugs) โดยเฉพาะ ไอซ์ โคเคน เอ็กซ์ตาซี่ มีแนวโน้มการแพร่แพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว
๓. พืชกระท่อม(สี่คูณร้อย) มีแนวโน้มในการแพร่ระบาดสูงขึ้น
แนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดของจังหวัดภูเก็ต
1 ยึดกรอบยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหายาเสพติด ปี 2552 / คำสั่ง ศอ.ปส. ที่ 8 / 2552 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2551 เรื่อง ปฏิบัติการ 90 วัน พันภัยยาเสพติด (3 พฤศจิกายน 2551 31 มกราคม 2552) และนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้การดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นไปตามแนวทางและนโยบายที่กำหนด จึงได้แบ่งมอบภารกิจและความรับผิดชอบให้ส่วนราชการระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการให้ปรากฏผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยกำหนดกรอบภารกิจ ดังนี้
1.2 มาตรการด้านการปราบปราม ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกวาดล้างจับกุมกลุ่มเป้าหมาย นักค้า เครือข่าย การอายัด ริบทรัพย์ เรื่องร้องเรียน การสกัดกั้นการขนส่งลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ การปิดล้อมตรวจค้น นักค้าตามหมายจับ
1.3 มาตรการด้านการป้องกัน ที่ทำการปกครองจังหวัดภูเก็ต เป็นหน่วยงานหลักประสานการดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดและปรากฏข่าวสารยาเสพติด ปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม และกวาดล้าง การลักลอบจำหน่ายยาเสพติดโดยสนธิกำลังฝ่ายปราบปราม Re x ray หมู่บ้าน/ชุมชน เป้าหมายที่เป็นพื้นที่เสี่ยง และบูรณาการดำเนินการตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
1.4 มาตรการด้านการบำบัดรักษา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เป็นหน่วยงาน หลักประสานการดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการค้นหา ชักจูง กดดันนำผู้เสพ ซึ่งถือเป็นผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดในระบบ
1.5 ยึดหลักตามแนวทางยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน / 2 โครงการหลัก ประกอบด้วย
รั้วชายแดน : การสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน
รั้วชุมชน : การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน
รั้วสังคม : การจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ
รั้วโรงเรียน : โรงเรียนป้องกันยาเสพติด
รั้วครอบครัว : ครอบครัวสีขาว ครอบครัวเข้มแข็ง
โครงการปราบปรามยาเสพติดรายสำคัญ และลดความเดือดร้อนประชาชน
โครงการบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพ / ผู้ติดยาเสพติดแบบบูรณาการ
1.6 แนวทางการดำเนินงานและผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน / 2 โครงการหลัก จังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน 2 โครงการหลัก โดยได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการรับผิดชอบดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดภูเก็ต ตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 511/2552 ลงวันที่ 7 เมษายน 2552 ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการ 8 คณะ โดยมอบหมายภารกิจหน้าที่และผลการดำเนินการ ดังนี้
1.6.1 คณะอนุกรรมการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน ( รั้วชายแดน) มีรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต ( ท.) เป็นประธานอนุกรรมการ สนธิกำลังทั้งฝ่ายตำรวจ ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัคร ปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติด ณ ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ด่านสกัดที่มีความเสี่ยง เพื่อสกัดการขนส่ง ลำเลียง ตรวจค้นจับกุมบุคคล ยานพาหนะ ที่ซุกซ่อนยาเสพติด มาตรการทางการข่าว จัดหาเครื่องสแกนตรวจค้นยาเสพติด อัลฟ่า 6 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการตรวจสกัด นอกจากนี้ยังกำหนดมาตรการสกัดกั้นทางน้ำบริเวณท่าเรืออ่าวฉลอง และทางอากาศบริเวณสนามบินภูเก็ต
1.6.2 คณะอนุกรรมการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ประชาสังคม ( รั้วชุมชน) มีปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานอนุกรรมการ ดำเนินการต่อเป้าหมายหมู่บ้าน/ชุมชนที่ปรากฏข่าวสารการแพร่ระบาด โดยดำเนินกิจกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน / ชุมชน จัดทำประชาคมเพื่อค้นหา ผู้เสพ/ ผู้ติด ผู้ค้า ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ชักจูงกดดันนำผู้เสพ/ผู้ติด เข้าสู่ระบบบำบัด ฯลฯ
1.6.3 คณะอนุกรรมการจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ ( รั้วสังคม) มีปลัดจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานอนุกรรมการดำเนินมาตรการทางสังคม มาตรการป้องปราม และมาตรการทางกฎหมาย ในการลดพื้นที่เสี่ยงหรือปัจจัยลบต่อเยาวชนแนะนำตักเตือน และลงโทษผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น สถานบันเทิง/สถานบริการ สถานประกอบการ หอพัก/ที่พักเชิงพาณิชย์ ร้านเกมส์/ อินเตอร์เน็ต/ โต๊ะสนุกเกอร์/ ร้านค้าแอบแฝง/ โต๊ะพนันบอล แหล่งมั่วสุม/ การแข่งขันจักรยานยนต์/ กลุ่มแก็งค์ต่าง ๆ การเที่ยวเตร่ในยามวิกาลของเด็กและเยาวชน รวมทั้งเพิ่ม/ขยายพื้นที่และกิจกรรมทางบวกให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อเปิดทางเลือกให้กับเยาวชน สามารถทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์โดยความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลานกีฬา/ ลานดนตรี/ ลานกิจกรรมสร้างสรรค์ของเยาวชน กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์
1.6.4 คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหายาเสพติดในโรงเรียน (รั้วโรงเรียน) มี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภูเก็ต เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ดำเนินกิจกรรมพัฒนาคุณธรรม สร้างกลไกเฝ้าระวังสอดส่องความประพฤตินักเรียนในสังกัด การแต่งตั้งครูผู้รับผิดชอบงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา การจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ โครงการบ้านหลังเรียน เช่น กิจกรรมสอนเสริม กิจกรรมดนตรี กีฬา ศิลปะ การเยี่ยมบ้านนักเรียน การจัดตั้งสภานักเรียน เป็นต้น
1.6.5 คณะอนุกรรมการส่งเสริมความเข้มแข็งครอบครัว ( รั้วครอบครัว) มี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน จัดอบรมหลักสูตรป้องกันยาเสพติด มีเป้าหมาย 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด กลุ่มครอบครัวที่มีความเสี่ยงกับยาเสพติด กลุ่มครอบครัวทั่วไป เป้าหมาย 100 ครอบครัว ๆ ละ 2-3 คน การประกาศเจตนารมณ์เป็นครอบครัวสีขาวเมื่อสิ้นสุดโครงการ
1.6.6 คณะอนุกรรมการปราบปรามยาเสพติด (โครงการปราบปรามยาเสพติด และลดความเดือดร้อนประชาชน) มี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ดำเนินการปราบปรามนักค้ายาเสพติด เครือข่ายระดับสำคัญ มาตรการด้านการข่าว ดำเนินการตามข้อร้องเรียนของประชาชน ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ มาตรการยึด อายัด ทรัพย์สิน รวมทั้งปิดล้อม ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดในชุมชน เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับจุดตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ที่มีความเสี่ยงต่อการใช้เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด กำหนดมาตรการกำกับ ควบคุมเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ให้กระทำผิดหรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดโดยเด็ดขาด โดยต้องดำเนินการทางกฎหมาย วินัย และทางการปกครองทันที
1.6.7 คณะอนุกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ( โครงการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ ผู้เสพ / ผู้ติดแบบบูรณาการ) มี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ดำเนินการนำผู้เสพ / ผู้ติดเข้าระบบการบำบัดในระบบ นำผู้เสพเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ติดตามช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัด ฯลฯ
1.6.8 คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ มี ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ กิจกรรมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จัดให้มีสื่อประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของประชาชน ผ่านทางวิทยุ โทรทัศน์ ป้ายประชาสัมพันธ์ คัตเอ๊าท์
1.6.9 แนวทางมาตรการอื่นๆ
1) กำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการ ศตส.จ. เดือนละ 1 ครั้ง โดยกำหนดปฏิทินการประชุมไว้เป็น
การล่วงหน้า ตลอดทั้งปี พ.ศ. 2552
2) กำหนดให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการรับผิดชอบดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดภูเก็ต ทั้ง 8 คณะ ร่วมกับการประชุมโต๊ะข่าวยาเสพติด (โต๊ะข่าวด้านการปราบปราม โต๊ะข่าวด้านการป้องกัน และโต๊ะข่าวด้านการบำบัดฟื้นฟู) โดยแยกตามภารกิจหน้าที่ของหน่วยงานที่มีความสอดคล้องกัน เดือนละ 1 ครั้ง
3) กำหนดให้มีการประชุมคณะทำงานโต๊ะข่าวประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลเฝ้าระวัง เดือนละ 2 ครั้งโดยกำหนดปฏิทินการประชุมไว้เป็นการล่วงหน้า ตลอดทั้งปี พ.ศ. 2552
4) รับแจ้งข้อมูลเบาะแสยาเสพติดผ่านช่องทาง ตู้ ปณ. 1 / เว็บบอร์ดทางเว็บไซด์จังหวัดภูเก็ต www.phuket.go.th E mail : phuket_drug@moi.go.th และโทรศัพท์มือถือหมายเลข 081-0810220 (24 ชั่วโมง)
ผลการดำเนินการด้านการปราบปรามยาเสพติด
สถิติการจับกุมยาเสพติดให้โทษประจำปีงบประมาณ 2552 ( ตุลาคม 2551 - กันยายน 2552) สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2,094 ราย 2,365 คน จำนวนเฉลี่ยของคดียาเสพติดต่อประชากร 100,000 คน ตั้งแต่ปี 2549 2552 เฉลี่ยปีละ 427.85 คดี ดังแสดงในตารางที่ 4
ตารางที่4 แสดงจำนวนคดียาเสพติดต่อประชากรแสนคน
จังหวัด |
ปี |
จำนวนประชากร |
รวม |
จำนวนคดียาเสพติด |
จำนวนคดียาเสพติด
: ประชากร
100,000 คน (คดี) |
ชาย |
หญิง |
คดี |
ผู้ต้องหา |
ภูเก็ต |
2549 |
144,391 |
156,346 |
300,737 |
1,074 |
1,204 |
357.12 |
2550 |
150,155 |
164,673 |
314,828 |
1,058 |
1,200 |
336.05 |
2551 |
155,555 |
171,451 |
327,006 |
1,277 |
1,438 |
390.51 |
2552 |
158,485 |
175,093 |
333,578 |
2,094 |
2,365 |
627.73 |
การบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด
ผลการดำเนินงานด้านการบำบัดฟื้นฟู ในปี 2552 มีผู้เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูแบบสมัครใจ จำนวน 49 คน เป็นเพศชาย 38 คน และเพศหญิง 41 คน ดคียาเสพติที่เข้ารับการบำบัดมากที่สุดคือ เสพยาบ้า 33 ราย รองลงมา เสพกัญขา 8 ราย และอื่นๆ 7 ราย
หมายเหตุ : สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต โทร 0 7635 4875 ต่อ 67929
|